เกิดอะไรขึ้น? เมื่อ Elon Musk - Jeff Bezos สองคนรวยที่สุดในโลก เปิดสงครามกันเอง

583 Views  | 

เกิดอะไรขึ้น? เมื่อ Elon Musk - Jeff Bezos สองคนรวยที่สุดในโลก เปิดสงครามกันเอง

หลายคนอาจจะสงสัยว่า คนหนึ่งมีธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า อีกคนหนึ่งทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

แถมทั้งสองต่างก็รวยอันดับต้นๆ ของโลกอยู่แล้ว จะมาทะเลาะเบาะแว้งอะไรกัน!?

ในบทความนี้จะพาคุณย้อนไปถึงที่มาที่ไป แล้วก็สรุปประเด็นคร่าวๆ ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ให้ได้ทราบกันครับ..


[ความอยากเป็นจ้าวอวกาศ]

- สาเหตุหลักของความขัดแย้งนั้นก็มาจากธุรกิจซึ่งเป็นเหมือน "ลูกชายอีกคน" ของทั้งคู่ ซึ่งก็คืองานด้านอวกาศนั่นเองครับ

- อย่างที่เราทราบกันดีว่า Elon Musk นอกจากจะเป็นเจ้าของค่ายรถยนต์ไฟฟ้า Tesla เขาก็ยังมีบริษัท SpaceX ที่ทำธุรกิจด้านอวกาศ

ซึ่งนอกจากจะรับงานจากกองทัพ หรือว่า NASA แล้ว ก็ยังเตรียมจะทำธุรกิจทัวร์อวกาศ รวมไปถึงภารกิจพามนุษย์ไปตั้งรกรากบนดาวอังคารด้วยเช่นกัน

- ส่วน Jeff Bezos นอกจากทำ Amazon (ที่ไม่เกี่ยวอะไรกับหุ้น OR) เขาก็ยังนำเงินส่วนตัวมาก่อตั้งธุรกิจด้านอวกาศ Blue Origin อีกด้วย

ถึงขั้นที่เจ้าตัวยอมขายหุ้น Amazon ที่มีมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใส่ให้กับธุรกิจอวกาศที่ยังไม่มีกำไร นั่นก็เพื่อทำตามแพสชั่นของตัวเองล้วนๆ

- ตอนนี้ดูเหมือนว่าธุรกิจของ SpaceX นั้นดูจะมีชื่อเสียงมากกว่าของทางฝั่ง Blue Origin อยู่หน่อยๆ อาจจะเพราะด้วยชื่อเสียงของผู้บริหาร ซึ่งเป็นที่รู้จักของคนทั่วไปมากกว่านั่นเอง


[ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น]

- เหตุความขัดแย้ง มันอยู่ที่บริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม ซึ่งจะทำให้คนทุกๆ พื้นที่บนโลกสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ แม้จะอยู่ในพื้นที่ทุรกันดารแค่ไหนก็ตาม

- ทีนี้ ของทาง SpaceX มีบริการดังกล่าวที่ชื่อว่า Starlink ส่วนของ Blue Origin ก็พัฒนาระบบดังกล่าวในชื่อ Kuiper Systems

- ด้วยความที่เป็นซีอีโอนักวิจารณ์อยู่แล้ว ทางฝั่ง Elon Musk ก็เคยกล่าวถึงบริการ Kuiper Systems เอาไว้ว่าเป็นระบบที่ลอกมาจาก Starlink ชัดๆ แถมยังพัฒนาตามหลังเขาอีกด้วย

- ถึงแม้จะเป็นบริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมเหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตาม ทั้งสองบริษัทเหมือนจะปล่อยดาวเทียมไปอยู่ในวงโคจรต่างระดับกันอยู่แล้ว จึงไม่ทับซ้อนกันสักเท่าไร

- และล่าสุดเป็นประเด็นขึ้นมาอีก เมื่อ Starlink ยื่นคำขอไปยังหน่วยงานด้านโทรคมนาคมสหรัฐฯ ขอลดระดับวงโคจรของดาวเทียมลงมา โดยให้เหตุผลว่าจะทำให้สามารถนำเสนอบริการที่ดียิ่งขึ้นได้

- ทาง Blue Origin ก็เลยวิจารณ์ว่าคำขอดังกล่าว มีความพยายามที่จะผูกขาดตลาดอินเทอร์เน็ตดาวเทียมเอาไว้เอง และทำลายการแข่งขันเสรี

(ซึ่งคำว่าผูกขาดนั้น ในสหรัฐฯ ถือเป็นเรื่องร้ายแรงและกระทบความรู้สึกคนฟังอย่างมาก)

- งานนี้ Elon Musk ก็เลยออกมาโต้ตอบทันที ว่าเหมือนเป็นการมาตัดขา Starlink ชัดๆ ไม่ทำให้เกิดประโยชน์อะไรต่อสารธารณะ

แล้วบริการ Kuiper Systems นั้นยังพัฒนาตามหลัง Starlink อีกมาก แล้วก็ยังไม่พร้อมใช้งานได้จริง

เหมือนทำนองว่าพวกเขาไม่ได้มอง Kuiper เป็นคู่แข่งเลย จะมาเรียกร้องอะไรกัน?

- ทางฝั่ง Blue Origin ก็เลยไม่อยู่เฉย โต้ตอบกลับอีกว่าบริการ Kuiper Systems นั้น ออกแบบมาให้ทำงานไม่ทับซ้อนกันกับ Starlink

แต่พอ Starlink มาทำแบบนี้ เท่ากับว่าเป็นการพยายามผูกขาด ก็ไม่ทำให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะเช่นกัน!!


หลังจากถกเถียงกันพอหอมปากหอมคอ ทางฝั่งซีอีโอนักทวิตเตอร์ Elon Musk ก็ยังไม่ได้มีการออกมาโต้ตอบอะไรเพิ่มเติม

เพราะจากการเลื่อนดูหน้าโปรไฟล์ของเขา ได้เปลี่ยนความสนใจไปพูดถึงการเปิดตัวรถ Tesla Model S รุ่นใหม่ที่จะเล่นเกมได้ รวมไปถึงการเกาะกระแสหุ้น GameStop และ Bitcoin ไปแทนแล้ว

ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าทั้งสองฝ่าย จะกลับมาถกเถียงในประเด็นนี้กันอีกเมื่อไร!? ก็ต้องมาคอยติดตามกันครับ..

ที่มา:

https://www.businessinsider.com/elon-musk-amazon-spacex...
https://brandinside.asia/elon-musk-versus-jeff-bezos-in.../



This website uses cookies for best user experience, to find out more you can go to our Privacy Policy  and  Cookies Policy